นัดนี้คาดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะส่ง เฮนริก ลาร์สสัน ลงเล่นเป็นนัดแรกให้กับทีม โดยคาดว่าจะได้ลงเล่นคู่กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ อีกทั้ง เซอร์ อเล็กซ์ ก็จะส่ง โทมัสซ์ คุสซ์แซค ลงเฝ้าเสาเป็นนัดที่ 4 ของเขาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ด้วย
ทางด้าน แอสตัน วิลล่า จะได้ แกเร็ธ แบร์รี่ กัปตันทีมกลับมาลงสนามหลังจากติดโทษแบนในนัดที่แล้ว แต่ในนัดนี้ โอลอฟ เมลล์เบิร์ก จะติดโทษแบน 1 นัด ในขณะที่ โธมัส โซเรนเซ่น ยังคงมีอาการบาดเจ็บ วิลล่าจึงได้รับอนุญาตให้ส่งผู้รักษาประตูที่ยิมตัวมาคือ กาบอร์ คิราลี่ ลงเล่นแทน
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลรายการนี้ โดยพวกเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว 17 ครั้ง โดย 7 ครั้งในนี้เป็นการเข้ารอบชิงภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเขาก็พาทีมคว้าแชมป์ 5 ครั้ง เซอร์ อเล็กซ์ ไม่เคยพาทีมแพ้ในรอบที่ 3 ครั้งล่าสุดที่พวกเขาตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ เกิดขึ้นเมื่อปี 1984 โดยพ่ายต่อ บอร์นมัธ
พวกเขาอยู่ในสถานะที่ดีทั้ง 2 รายการที่พวกเขาร่วมแข่ง – โดยในพรีเมียร์ชิพ พวกเขาก็อยู่อันดับที่ 1 ในตารางมีคะแนนนำเชลซี ทีมอันดับ 2 อยู่ 6 คะแนน และใน แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาก็ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ผ่านรอบ 3 เอฟเอ คัพ นี้ให้ได้ นั่นก็จะทำให้พวกเขามีสิทธิที่จะลุ้น 3 แชมป์ในปีนี้
ครั้งนี้เป็นการพบกับ แอสตัน วิลล่า ในศึกเอฟเอ คัพ ครั้งที่ 11 โดยพวกเขาเอาชนะมาได้ถึง 8 ครั้ง
แอสตัน วิลล่า พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้ไม่ดีนัก ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่ มาร์ติน โอนีลล์ โดย 10 นัดหลังสุด พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย
จากการพบกับแมนฯ ยูไนเต็ด 9 นัดหลังสุด พวกเขาก็พ่ายต่อทีมปีศาจแดงทั้ง 9 นัด นั่นรวมถึงนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ชิพ ในวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยพวกเขาแพ้ในวิลล่า พาร์ค 0 – 3 จากการทำประตูของ พอล สโคลส์ 2 ประตูและ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีก 1 ประตู พวกเขาไม่เคยเก็บชัยชนะได้ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่ 5 พฤศจิกายน 1983
Opal